วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556

ความหมายดอกกุหลาบแต่ละสี

ความหมายดอกกุหลาบแต่ละสี

ดอกกุหลาบสีแดง
         ไม่ว่าจะเป็นดอกกุหลาบ สีแดงอ่อน หรือสีแดงสด บ่งบอกถึงการตกหลุมรักหรือแอบปลื้มใครซักคน เป็นสื่อแทนใจเพื่อจะบอกให้รู้ว่ามีคนกำลัง แอบปลื้มอยู่ ส่วนดอกกุหลาบสีแดงเข้ม ถ้ามีใครให้ดอกกุหลาบสีแดง รู้ไว้เลย นะว่าเค้าคนนั้น มีความรักที่สุดแสน จะลึกซึ้ง  มั่นคง และแน่นนปึก เรียกได้ว่าความรักนั้น ไม่มีวันจืดจางไป จากหัวใจ




ดอกกุหลาบสีขาว       
       เป็นสีแห่งความรักที่ใสสะอาด บริสุทธิ์น่าทนุถนอมโดยไม่คิด เลยว่าความรักที่มอบให้ไปนั้นจะได้ความรักตอบกลับมาหรือเปล่า


ดอกกุหลาบสีชมพู
         เป็นความโรแมนติกที่แสดงถึงความรักที่หวานซึ้งที่ผู้ให้มีต่อผู้รับ แต่ก็อย่าเพิ่งดีใจ เพราะว่ามันไม่ได้เป็นความรักที่ลึกซึ้ง แค่เป็นเพียงรักที่ฉาบฉวยต้องการเปลี่ยนแปลงเพื่อแสวงหาสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดเท่านั้นเอง



ดอกกุหลาบสีส้ม
         สื่อให้เห็นถึงความสดใส ความเป็นตัวของตัวเอง ของผู้รับ เมื่ออยู่ใกล้แล้วทำให้รู้สึกอบอุ่น และยังบ่งบอกความในใจถึงความรักและสิ่งที่ผ่านมาด้วย


ดอกกุหลาบสีเหลือง
         เป็นตัวแทนแห่งมิตรภาพ และยังสื่อถึงความห่วงใยของผู้ให้ด้วย หลายคนเชื่อว่าเป็นดอกไม้ที่ใช้สำหรับเยี่ยมคนป่วย แต่จริงๆแล้วก็สามารถให้กับเพื่อนๆ เนื่องในโอกาสพิเศษได้เช่นกัน

ดอกกุหลาบสีฟ้า
         เชื่อว่าเป็นดอกไม้ แห่งความอดทน แข็งแกร่ง ดอกไม้แห่งความฝันที่สวยงาม และมั่นคงตลอดกาล

ดอกกุหลาบสีม่วง
        บางคนคงคิดว่ามันเป็นดอกกุหลาบที่สื่อถึงความเศร้า นั่นก็เป็นอีกความหมายนึง แต่ถ้ามองในแง่ของความสุข กุหลาบสีม่วงยังสื่อให้เห็นถึงความสำเร็จในชีวิต การงานได้อีกด้วย


ดอกกุหลาบสีดำ
       ความหมายของกุหลาบดำ แต่อาจจะลืมไปแล้ว จนมาถึงวันนี้ได้รื้อฟื้นความหมายอีกครั้ง หลายคนคงให้สีดำแทนความเสียใจ โศกเศร้า 
แต่ความหมายของกุหลาบสีดำว่าแท้จริงแล้ว ความหมายที่ลึกล้ำ เจ้ากุหลาบดำ นั่นคือ..นิรันดร์ ดังนั้นดอกกุหลาบดำที่หมายถึงรักนิรันดร์ และมันไม่เคยมีจริง





  




ดอกไม้ประจำวันเกิด



ดอกไม้ประจำวันเกิด



          วันนี้เรามีดอกไม้ ประจำวันเกิดมาให้อ่านกันค่ะ … ใครเกิดวันไหน ตรงกับต้นไม้ หรือดอกไม้อะไรก็อย่าลืมไปหามาปลูกนะคะ  

วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556

ประวัติดอกกุหลาบ พร้อม ความหมายของดอกกุหลาบ



ประวัติดอกกุหลาบ พร้อม ความหมายของดอกกุหลาบ




ดอกกุหลาบ


          เคยได้ยินคำเปรียบเปรยไหมที่ว่า ผู้หญิงสวยแต่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมก็เปรียบได้ดัง "ดอกกุหลาบ" เพราะดอกกุหลาบนั้น แม้จะมีรูปร่างภายนอกที่สวยงามรวมถึงกลิ่นที่หอมชวนดม แต่มันก็มีหนามแหลม หากไม่ระวังอาจโดนบาดได้ง่าย ๆ 

          กุหลาบนั้นมีชื่อสามัญว่า "Rose" ชื่อทางพฤกษาศาสตร์ว่า "Rosa hybrids" และมีชื่อวงศ์ว่า"Rosaceae" ขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่ง ลักษณะของกุหลาบนั้นมีทั้งไม้พุ่มและไม้เลื้อย ลำต้นและกิ่งจะมีหนาม ส่วนดอกของกุหลาบจะมีทั้งดอกเดี่ยวและเป็นช่อ กลีบดอกมีลักษณะใหญ่ มีไม่ต่ำกว่า 5 กลีบ กุหลาบนั้นมีกลิ่นหอมชวนดม และมีหลายสี เช่น แดง ขาว เหลือง ชมพู ฯลฯ อีกทั้งยังมีหลายชนิดด้วย

          ซึ่งคำว่ากุหลาบนั้นมาจากคำว่า "คุล" ที่ในภาษาเปอร์เซียแปลว่า "สีแดง ดอกไม้ หรือดอกกุหลาบ" โดยในภาษาฮินดีก็มีคำว่า "คุล" แปลว่า "ดอกไม้" และคำว่า "คุลาพ" ก็หมายถึงกุหลาบอย่างที่ไทยเราเรียกกัน แต่ออกเสียงเป็น "กุหลาบ" ส่วนคำว่า "Rose" ในภาษาอังกฤษนั้นมาจากคำว่า"Rhodon" ที่แปลว่ากุหลาบในภาษากรีก 

ดอกกุหลาบ

ดอกกุหลาบ

          โดยกุหลาบเป็นดอกไม้ที่นิยมปลูกมาแต่โบราณ ว่ากันว่ากุหลาบเกิดขึ้นเมื่อ 70 ล้านปีมาแล้ว และเคยมีการค้นพบฟอสซิลของกุหลาบที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยแต่ก่อนกุหลาบนั้นเป็นกุหลาบป่าและมีรูปร่างไม่เหมือนในทุกวันนี้ แต่เนื่องจากมนุษย์ได้นำเอากุหลาบป่ามาปลูกและผสมพันธุ์จนขยายเป็นพันธุ์ต่าง ๆ มากมาย

          ตามประวัติศาสตร์เล่าว่ากุหลาบป่าถูกนำมาปลูกไว้ในพระราชวังของจักรพรรดิ์ ในสมัยราชวงศ์ฮั่นราว 5,000 ปีมาแล้ว ขณะที่อียิปต์เองก็ปลูกกุหลาบเป็นไม้ดอกส่งไปขายให้แก่ชาวโรมัน เพราะชาวโรมันเป็นชาติที่รักดอกกุหลาบมาก แม้ว่าจะสั่งซื้อจากประเทศอียิปต์แล้วก็ตาม แต่ก็ยังลงทุนสร้างสถานที่ขนาดใหญ่สำหรับปลูกดอกกุหลาบอีกด้วย เพราะสำหรับชาวโรมันแล้วดอกกุหลาบนั้นมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวัน อีกทั้งชาวโรมันถือว่าดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของความรัก เป็นทั้งของขวัญ และเป็นดอกไม้สำหรับทำมาลัยต้อนรับแขก รวมถึงเป็นดอกไม้สำหรับงานฉลองต่าง ๆ แถมยังเป็นส่วนประกอบสำหรับทำขนม ทำไวน์ และยาได้อีกด้วย

          และเมื่อเอ่ยถึงดอกกุหลาบแล้ว หลาย ๆ คนก็คงจะนึกถึงเรื่องความรัก เพราะกุหลาบถือเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความโรแมนติก โดยมีบางตำนานเล่าว่า ดอกกุหลาบเป็นเสมือนเครื่องหมายแทนการกำเนิดของ เทพธิดาวีนัส ซึ่งเป็นเทพแห่งความงามและความรัก วีนัสเป็นที่รู้จักกันในชื่อ อโฟรไดท์ ในตำนานเทพของกรีกได้กล่าวไว้ว่า น้ำตาของเธอหยดลงปะปนกับเลือดของ อคอนิส คนรักของเธอที่ถูกหมูป่าฆ่า เลือดและน้ำตาหยดลงสู่พื้นแล้วกลายเป็นดอกไม้สีแดงเข้มหรือดอกกุหลาบนั่นเอง แต่บางตำนานก็เล่าว่าดอกกุหลาบเกิดจากเลือดของ อโฟรไดท์ เองที่หยดลงสู่พื้น เมื่อเธอแทงตัวเองด้วยหนามแหลม

          แม้จะไม่มีการบันทึกอย่างชัดเจนว่าดอกกุหลาบนั้นเข้ามาเกี่ยวข้องกับบ้านเราตอนไหน แต่จากบันทึกของ ลา ลูแบร์ ราชทูตฝรั่งเศสในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้บันทึกไว้ว่าเห็นกุหลาบที่กรุงศรีอยุธยา และในกาพย์ห่อโคลงนิราศธารโศกสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ ก็ได้มีการกล่าวถึงกุหลาบเอาไว้ และยังมีตำนานดอกกุหลาบของไทยที่เป็นบทละครพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 6 เรื่อง มัทนะพาธา ในเรื่องเล่าถึงเทพธิดาองค์หนึ่งชื่อ "มัทนา" ซึ่งได้มีเทพบุตรองค์หนึ่งชื่อ "สุเทษณะ" ซึ่งพระองค์ทรงหลงรักเทพธิดา "มัทนา" มาก แต่นางไม่มีใจรักตอบ จึงถูกสาปให้ไปเกิดเป็นดอกกุหลาบ จึงกลายเป็นตำนานดอกกุหลาบแต่นั้นมา 

                  โดยดอกกุหลาบนั้นสามารถสื่อความหมายได้หลายอย่าง อาทิ 
ดอกกุหลาบ 

 สีกุหลาบสื่อความหมาย 

           สีแดง สื่อความหมายถึง ความรักและความปราถนา เป็นดอกไม้ของกามเทพ คิวปิด และอีรอส เป็นสิ่งนำโชคนำความรักมาให้แก่หญิงหรือชายที่ได้รับ 
           สีชมพู สื่อความหมายถึง ความรักที่มีความสุขอย่างสมบูรณ์ 

           สีขาว สื่อความหมายถึง ความมีเสน่ห์ ความบริสุทธิ์ มิตรภาพ และความสงบเงียบ และนำโชคมาให้แก่หญิงหรือชายเช่นเดียวกับกุหลาบแดง 

           สีเหลือง สื่อความหมายถึง เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอนะ 

           สีขาวและแดง สื่อความหมายถึง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน 

           สีส้ม สื่อความหมายถึง ฉันรักเธอเหมือนเดิม

ดอกกุหลาบ


 ดอกกุหลาบ

ความหมายอื่น 

            กุหลาบแดงเข้ม (สีเหมือนไวน์แดง) "เธอช่างมีเสน่ห์งามเหลือเกิน" 
            กุหลาบตูมสีแดง "ฉันเริ่มรักเธอแล้วจ้ะ" 

            กุหลาบบานสีแดง "ฉันรักเธอเข้าแล้ว" 

            กุหลาบสีแดงที่โรยแล้ว "ความรักของเรานั้นจบลงแล้ว" 

            กุหลาบตูมสีขาว "เธอช่างไร้เดียงสาน่าทะนุถนอมเหลือเกิน ฉันรักเธอ" 

            กุหลาบสีขาวที่โรยแล้ว "เสน่ห์ของเธอมันเริ่มลดน้อยถอยลงแล้วนะจ๊ะ"

           กุหลาบตูม สื่อความหมายถึง ความงามและความเยาว์วัย 

          และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวที่น่าสนใจของดอกกุหลาบ 

เทคนิคการถ่ายภาพดอกไม้


เทคนิคการถ่ายภาพดอกไม้.......




พูดถึงเรื่องของเทคนิคการถ่ายภาพดอกไม้กันค่ะ   สำหรับการถ่ายภาพดอกไม้นั้นเรียกไวัสดีคะเพื่อนๆ ทุกท่าน สำหรับวันนี้เราก็จะมาด้ว่าเป็นการถ่ายที่ค่อนข้างเบสิคค่ะเพราะว่าปกติแล้วดอกไม้นั้นก็สวยงามอยู่แล้วละก็ค่อนข้างจะทำให้ภาพนั้นดูโดดเด่นและน่าดึงดูด
การถ่ายภาพดอกไม้นั้นเรียกได้ว่าเป็นเบื้องต้นของเทคนิคเลยละค่ะ ควรจะต้องใช้การถ่ายเรื่องของอารมณ์ผสมผสานคะ และควรจะเน้นเรื่องของสัตว์คู่ธรรมชาติ อาธิ ผีเสื้อกำลังกินน้ำหวานบนดอกไม้อยู่ในการถ่ายอันนี้เรียกได้ว่าค่อนข้างจะต้องใช้สมาธิค่ะและเรียกได้ว่าเอาใจคนที่ชอบเรื่องของธรรมชาติมากๆค่ะและถ้ายิ่งในภาพนั้นผีเสื้อเป็นผีเสื้อปีกสวยๆ สีสวยๆหายากภาพนั้นจะดูสวยมากและเราสามารถที่จะจดลิสิทธ์ของเราเองเพื่อนำไปขายต่อได้เลยละค่ะเพราะว่าการจะถ่ายผีเสื้อ กินน้ำหวานหรือการใช้ชีวิต ประจำวันของสัตว์ปีกนั้นต้องวิ่งเข้าป่าค่ะต้องเข้าไปถ่ายในป่าเท่านั้นค่ะแหล่งอุดมสมบูรณ์ค่ะเราถึงจะเห็นเรื่องของพฤติกรรมของสัตว์ป่านั่นเองละค่ะและดอกไม้สวยๆนั้นมักจะอยู่ในป่าลึกๆด้วยละค่ะขอบอกได้เลยละค่ะว่าค่อนข้างที่จะต้องลงทุนนิดหน่อยค่ะในการทำตรงนี้ เพราะว่าคุณนั้นจะต้องไปในป่าเพื่อถ่ายเลยเดียวละค่ะ  สำหรับเทคนิคนั้นจะมีดังนี้ค่ะ
เทคนิคการถ่ายภาพดอกไม้
เทคนิคถ่ายภาพดอกไม้
แนะนำว่าควรจะใช้แสงช่วยนิดหน่อยพอค่ะเน้นความคมชัดของดอกไม้เอาชัดถึงตัวเกสรได้ยิ่งดีค่ะ แต่ว่า การถ่ายนั้น เลือกโหมดที่มีผีเสื้อเกาะดอกไม้อยู่ละก็มันจะดูให้ความรู้สึกธรรมชาติมากกว่าค่ะทั้งนี้ทั้งนั้นยังเรียกได้ว่าการถ่ายภาพ ดอกไม้นั้นค่อนข้างง่ายค่ะและค่อนข้างที่จะง่ายกว่าการถ่ายพลุหรือน้ำตกเพราะว่า พลุกับน้ำตกนั้นเป็นโหมดเคลื่อนไหวทีเรียกได้ว่าเราจะต้องปรับมุมกล้องเอง
แต่ว่าการถ่ายดอกไม้มันจะยากตรงที่ต้องเดินเข้าป่าลึกเพื่อหาดอกไม้น่าถ่ายและจับ ผิดเจ้าพวกแมลงต่างๆนี่เองละค่ะ ดังนั้นขอบอกเลยละค่ะว่าการถ่ายค่อนข้างที่จะยุ่งยากนิดนึงแต่ก็ไม่ถึงขั้นยากมากค่ะต้องลองถ่ายดุค่ะสำหรับเทคนิคนั้นมันก็ไม่มีอะไรมากมายค่ะแค่มีเลนส์ดีๆและการปรับโหมดความคมชัดลึกดีๆก็พอแล้วละค่ะในการจับภาพดอกไม้สวยๆค่ะต้องลองคะสำหรับมือใหม่ฝึกการถ่ายภาพจากดอกไม้เนี่ยแหละค่ะที่จะทำให้คุณนั้นเป็นโปรได้ง่ายๆ ค่ะ เพราะว่า การที่คุณนั้นรู้จักเข้าป่าเพื่อหาการถ่ายภาพสวยๆหรือว่าเลือกมุมของคุณเองนั้นมันจะบ่งบอกเลยละค่ะว่าอนาคตนั้นคุณจะเป็นตากล้องมืออาชีพได้หรือไม่นั่นเองละค่ะ....

วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2556

ส่วนประกอบของดอกไม้

ส่วนประกอบของดอกไม้

            ดอกไม้ (flower) คือ ส่วนของพืชที่เจริญและเปลี่ยนแปลงมาเพื่อทำหน้าสืบพันธุ์ ซึ่งดอกไม้ทั่วไปประกอบด้วยส่วนสำคัญ 4 ส่วน โดยแต่ละส่วนจะเรียงกันเป็นชั้นหรือเป็นวงบนฐานรองดอก คือ
ส่วนประกอบของดอกไม้

1.วงกลีบเลี้ยง (Calyx)

            แต่ละกลีบเรียกว่า กลีบเลี้ยง (Sepal) เป็นส่วนที่อยู่ชั้นนอกสุด มักมีสีเขียวเนื่องจากเจริญมาจากใบ ทำหน้าที่ห่อหุ้มป้องกันอันตรายให้แก่ส่วนอื่นๆ และช่วยในการสังเคราะห์แสง กลีบเลี้ยงที่อยู่แยกกันเป็นกลีบๆ เรียกว่า อะโปเซพิลัส (Aposepalous) หรือ พอลิเซพิลัส (Polypalous) เช่น ดอกบัว ดอกพุทธรักษา บางชนิดกลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันเรียก แกมโมเซพิลัส (Gamosepalous) หรือ ซินเซพิลัส (Synsepalous) เช่น ชบา บานบุรี พืชบางชนิดอาจมีกลีบเลี้ยงสีอื่นนอกจากสีเขียวซึ่งจะทำหน้าที่ล่อแมลงในการผสมเกสรเช่นเดียวกับกลีบดอก พืชบางชนิดมี ริ้วประดับ (Epicalyx) เป็นกลีบเล็กๆ ใกล้กลีบเลี้ยง เช่น ชบา พู่ระหง พืชบางชนิดกลีบเลี้ยงและกลีบดอกมีลักษณะเหมือนกันจนแยกไม่ออกเรียกว่า วงกลีบรวม (Perianth) และเรียกแต่ละกลีบว่า กลีบรวม (Tepal) ได้แก่ บัวหลวง จำปี จำปา


2.วงกลีบดอก (Corolla)

            แต่ละกลีบเรียกว่า กลีบดอก (Petal) คือส่วนของดอกที่อยู่ถัดจากกลีบเลี้ยงเข้ามาข้างใน มีสีสันต่างๆ สวยงามเนื่องจากมีรงควัตถุชนิดต่างๆ ภายในเซลล์ ส่วนกลีบดอกที่มีสีขาวจะไม่มีรงควัตถุภายในเซลล์ของกลีบดอก นอกจากนี้บางชนิดกลีบดอกมีกลิ่นหอม เช่น กุหลาบ มะลิ กระดังงา ราตรี สายหยุด พืชบางชนิดตรงโคนกลีบดอกจะมีต่อมน้ำต้อยหรือน้ำหวานไว้ล่อแมลงเพื่อช่วยในการผสมเกสร กลีบดอกที่อยู่แยกกันเป็นอิสระ เรียกว่า อะโปเซพิลัส (Aposepalous) หรือ พอลิเซพิลัส (Polypalous) เช่น กุหลาบ ชบา มะลิ บัว กลีบดอกเชื่อมติดกันเรียก แกมโมเซพิลัส (Gamosepalous) หรือ ซินเซพิลัส (Synsepalous) เช่น มะเขือ ผักบุ้ง เข็ม กลีบดอกทั้ง 2 ประเภท มีลักษณะรูปทรงเฉพาะ คือ
2.1 กลีบดอกแยกเป็นอิสระ มีรูปทรงเฉพาะ ดังนี้
  • รูปกากบาท ประกอบด้วยกลีบดอก 4 กลีบ แต่ละคู่ตั้งฉากกัน
  • รูปดอกถั่ว ประกอบด้วยกลีบดอก 5 กลีบ แบ่งเป็น 3 ขนาด กลีบใหญ่อยู่ด้านบนเรียก กลีบกลาง กลีบข้าง 1 คู่เรียกกลีบคู่ข้าง และกลีบคู่ล่างเชื่อมกันเป็นกระโดงเรียกว่ากลีบคู่ล่าง
  • รูปดอกหางนกยูง ประกอบด้วยกลีบดอก 5 กลีบ ซึ่ง 4 กลีบมีรูปร่างคล้ายคลึงกัน ส่วนกลีบบนสุดมีขนาดและรูปร่างแตกต่างกันไป

3.วงเกสรตัวผู้ (Stamen)

            อยู่ถัดจากกลีบดอกเข้าไป เกสรตัวผู้มีหลายอันเรียงกันเป็นชั้น เป็นส่วนของดอกที่จำเป็นในการสืบพันธุ์ โดยมีอับเรณูอยู่ปลายก้านเป็นถุงมี 2 พู เมื่อดอกเจริญเติบโตเต็มที่ถุงเรณูจะแตกออก ละอองเรณูจะปลิวไปผสมกับเกสรตัวเมีย


4.วงเกสรตัวเมีย (Pistill or carpel)

            จะเป็นส่วนที่อยู่ในสุดของดอก โดยมากแล้วแต่ละดอกจะมีเกสรตัวเมียเพียง 1 อัน ตรงส่วนปลายยอดจะเป็นปุ่มมีขนหรือน้ำเหนียวๆ สำหรับจับละอองเรณูที่ปลิวมา

ประเภทของดอกไม้

ประเภทของดอกไม้

จำแนกตามส่วนประกอบของดอก

  • ดอกสมบูรณ์ (Complete flower) คือดอกที่มีส่วนประกอบของดอกครบทั้ง 4 ส่วนในดอกเดียวกัน เช่น ชบา พู่ระหง กุหลาบ มะเขือ
  • ดอกไม่สมบูรณ์ (Incomplete flower) คือดอกที่มีส่วนประกอบของดอกไม่ครบทั้ง 4 ส่วน เช่น ดอกหน้าวัว (ขาดกลีบเลี้ยงและกลีบดอก) ดอกบานเย็น (ขาดกลีบดอก)

จำแนกตามลักษณะของเพศ

  • ดอกสมบูรณ์เพศ คือดอกที่มีทั้งเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียในดอกเดียวกัน เช่น ดอกตำลึง พู่ระหง และกุหลาบ
  • ดอกไม่สมบูรณ์เพศ คือในดอกจะมีเพียงเกสรตัวผู้หรือเกสรตัวเมียเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ดอกที่มีแต่เกสรตัวผู้เรียก ดอกตัวผู้ ดอกที่มีแต่เกสรตัวเมียเรียก ดอกตัวเมีย ดอกที่ไม่มีทั้งเกสรตัวผู้และตัวเมียเรียก ดอกเป็นกลางหรือดอกเป็นหมัน และหากในพืชต้นหนึ่งๆ มีดอกสมบูรณ์เพศหรือมีทั้งดอกตัวผู้และดอกตัวเมียในต้นเดียวกัน แม้จะคนละดอกหรือต่างช่อดอก เรียกพืชต้นนั้นว่า พืชกระเทย เช่น ข้าวโพด ดอกตัวผู้และตัวเมียแยกต่างช่อดอก มะพร้าว ดอกตัวผู้และตัวเมียต่างดอกในช่อเดียวกัน ตำลึง ฟักทอง ดอกตัวผู้และตัวเมียแยกดอกกัน ส่วนพืชที่มีดอกเพียงเพศเดียวทั้งต้น เรียกพืชเพศแยก เช่น อินทผาลัม มะเดื่อ ตาล พืชบางชนิดมีทั้งดอกสมบูรณ์เพศและดอกไม่สมบูรณ์เพศอยู่บนต้นเดียวกัน เช่น มะละกอ เงาะ และทานตะวัน

จำแนกตามจำนวนดอก

  • ดอกเดี่ยว เป็นดอกที่เกิดขึ้นบนก้านดอก เป็นดอกเดียวโดดๆ ในแต่ละข้อของกิ่งหรือลำต้น เช่น ชบา จำปี การะเวก
  • ดอกช่อ เป็นดอกที่เกิดเป็นกลุ่มอยู่บนก้านดอกใหญ่เดียวกัน และประกอบด้วยก้านดอกย่อยๆ หลายดอก ลักษณะการติดของดอกทำให้เกิดช่อดอกแบบต่างๆ กัน แบ่งเป็น 2 กลุ่มตามลักษณะการบานของดอก คือ
ดอกช่อแบบอินดีเทอร์มิเนต (Indeterminate inflorescence) เป็นดอกช่อที่ดอกย่อยที่อยู่ล่างสุดหรือริมนอกสุดจะบานและแก่ก่อนดอกอื่นที่อยู่ถัดเข้าไปข้างในหรืออยู่เหนือขึ้นไปข้างบน ดอกย่อยอาจมีหรือไม่มีก้านดอกย่อยก็ได้ ถ้ามีก้านดอกย่อยโดยส่วนใหญ่ก้านที่อยู่ล่างสุดจะยาวที่สุด

ช่อกระจุกแน่น head
ช่อดอกที่มีดอกย่อยอัดกันแน่นบนฐานรองดอกรูปจานที่แผ่กว้างออก ตรงกลางนูนเล็กน้อย เช่น ทานตะวัน ดาวเรือง 

ช่อแบบหางกระรอก catkin
ช่อดอกที่มีลักษณะคล้ายดอกเชิงลด ช่อดอกมีแกนกลางยาว ดอกย่อยไม่มีก้านดอกย่อย ต่างกันตรงที่ปลายช่อห้อยลง

ช่อเชิงลดมีกาบ spadix
ช่อดอกแบบเชิงลดที่มีดอกแยกเพศติดอยู่บนแกนกลาง ไม่มีก้านดอกย่อย มีริ้วประดับแผ่นใหญ่เป็นกาบหุ้ม 

ชื่อดอกไม้และความหมาย

กุหลาบ
คำว่ากุหลาบมาจากภาษาเปอร์เชียได้รับการยกย่องว่าเป็นราชินีแห่งไม้ดอก เนื่องจากดอกมีรูปร่างสวยงามและมีกลิ่นหอมชวนให้หลงใหลเป็นอย่างมากกุหลาบมีหลายพันธุ์มากไกว่า 100 ชนิดแต่ละชนิดแตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็น ดอก กลิ่น หรือลำต้น บางพันธุ์เป็นไม้เลื้อย ไม้พุ่มส่วนต้นกุหลาบแคระมีไม่ต่ำกว่า 100 ชนิด จะมีหนามแหลมบริเวณลำต้น และกิ่งก้านสาขาใบเป็นใบร่วม ดอกกุหลาบมีชนิดดอกเดี่ยวและช่อ กลีบดอกขอบเรียบกลมเกสรตัวผู้ และเกสรตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน

มงคลความหมาย
กุหลาบมีกลิ่นหอม สีสดใส และรูปร่างสวยงามจนได้รับฉายาว่า "ราชินีแห่งดอกไม้" คงไม่มีใครปฏิเสธความงามของดอกไม้ชนิดนี้อย่างแน่นอน เพราะมีกลิ่นหอมและสีสันสดใส แม้ใครได้มาเห็นก็ชื่นชม รักใคร่ หากนำมาปลูกไว้ในบริเวณบ้าน จะช่วยให้บ้านมีความสวยสง่าน่าชื่นชม ชีวิตมีแต่ความราบรื่นฉลาดปราดเปรื่อง อีกทั้งกุหลาบยังมีอาวุธประจำตัวคือหนาม อันจะช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเข้ามาทำร้ายคนในครอบครัวได้





แก้ว
แก้วจัดเป็นไม้พุ่ม ใบมีขนาดเล็ก ปลายใบมน หนาเป็นเงา ส่วนดอกนั้นมีสีขาวบริสุทธิ์ออกเป็นช่อบริเวณปลายกิ่ง เมื่อดอกบานกลีบจะม้วนออก และส่งกลิ่นแรงในตอนเช้า 2-3 วันดอกก็จะโรยหมด แต่โชคดีที่แก้ว มีดอกออกตลอดปีทำให้เป็นไม้ที่น่าสนใจ อีกทั้งผู้ปลูกอาจทำต้นแก้วเป็นไม้ตกแต่งกิ่งก้านได้ โดยเป็นรูปทรงต่างๆ
มงคลความหมาย
ต้นแก้วมีความหมายอันเป็นมงคลเพราะเชื่อว่า การปลูกแก้วไว้ประดับบ้านจะได้รับแต่สิ่งที่ดีงามอีกทั้งยังช่วยให้สมาชิกในบ้านมีจิตใจเบิกบานแจ่มใสบริสุทธิ์สูงสุด เป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปเสมือนดั่งแก้วใส นอกจากนั้นดอกแก้วยังมีกลิ่นหอมละมุน ยามมีลมพัดโชยดอกแก้วจะส่งกลิ่นหอมเย็น ชื่นใจ



กล้วยไม้
กล้วยไม้มีหลากหลายชนิดพันธุ์ ทั้งชนิดไม้ดินและรากอากาศ แต่ส่วนใหญ่ที่นำมาปลูกเป็นไม้ประดับเป็นชนิดรากอากาศ เสียส่วนใหญ่ ซึ่งแต่ละชนิดจะมีลักษณะของใบ ดอก เเละลำต้นแตกต่างกันออกไป
กล้วยไม้สกุลเเคทาลียา
เป็นราชินีแห่งกล้วยไม้ เนื่องจากมีดอกใหญ่ จะออกช่อละ 1 ดอก หรือ 2 ดอกเท่านั้น แต่จะมีบางชนิดจะมีดอกถึง 10 ดอก ประกอบด้วยกลีบนอกมี 3 กลีบขนาดเท่าๆกัน กลีบข้างในมีขนาดกว้างกว่ามี 2 กลีบ ส่วนเกสรจะยาวและโค้งเล็กน้อย ตรงปลายมีกระเปาะครอบเกสรตัวผู้อยู่ ส่วนใบนั้นค่อนข้างหนาและแข็งไม่มีกาบ
มงคลความหมาย
กล้วยไม้จัดเป็นพันธุ์ไม้แห่งคุณธรรม ช่วยให้จิตใจสงบ สุขุม ดับความร้อนในจิตใจให้เย็นลงได้ อีกทั้งยังมีความละเอียดรอบคอบอีกด้วย ซึ่งความหมายของกล้วยไม้นั้นอาจแตกต่างตามชนิดพันธุ์ เช่น แคทาลียา เป็นพันธุ์ที่แสดงถึงความสูงส่ง เกียรติยศและความสวยงาม รองเท้านารี ก็แสดงให้เห็นถึงความสุขุมรอบคอบ และความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว



บัว
บัวคือไม้น้ำที่มีเหง้าทอดยาวอยู่ในโคลนตม ใบมีลักษณะวงกลมขนาดใหญ่ จะถูกชูอยู่เหนือท้องน้ำ ก้านใบยาว หนามสากโดยรอบหากหักก้านใบบัวดู จะพบใยสีขาวเหนียวอยู่ภายใน ส่วนดอกนั้นมีหลายสีและหลายขนาด แล้วแต่ชนิดพันธุ์
บัวหลวง
บัวหลวงมีดอกขนาดใหญ่ สีขาว หรือชมพู มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เมล็ดบัวสามารถนำมารับประทานได้ ส่วนดอกนั้นนำมาใช้ในงานพิธีต่างๆ
มงคลความหมาย
บัวเป็นไม้มงคลในการบูชาพระและประกอบพิธีทางศาสนา โดยมีผู้ยึดถือและสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล อีกทั้งยังเปรียบเทียบคนเฉกเช่นดอกบัว 4 เหล่าอีกทั้งยังมีความเชื่อว่าสายใยของบัวเปรียบเสมือนสายใยสัมพันธุ์ของสมาชิกในครอบครัวอีกด้วย ดังนั้นการปลูกบัวจะช่วยสร้างความรัก ความผูกพันธุ์และ คุณธรรมให้ครอบครัวมีความสุขตลอดไป



บานบุรี
ไม้ชนิดนี้มีลักษณะเป็นเถาไม้เลื้อย ลำต้นเป็นข้อปล้อง ใบหนาสีเขียวปลายใบแหลมออกเป็นคู่ ดอกมีลักษณะเป็นรูปปากแตรแยกออกเป็น 5 แฉก ช่อหนึ่งอาจมีดอกได้ประมาณ 3-5 ดอก โดยมากดอกจะออกเวียนกันตลอดทั้งปี มีทั้งชนิดดอกสีเหลืองและสีม่วง ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำหรือตอนกิ่ง
มงคลความหมาย
บานบุรีนับเป็นพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่งที่มีความสิริมงคล ดอกเหลืองอร่ามเป็นเสมือนแสงแห่งความเจริญรุ่งเรืองหากบ้านใดปลูกดอกบานบุรี ย่อมจะไดพ้รับแต่สิ่งที่ดีและมีความเจริญรุ่งเรืองในทุกๆด้าน